บมจ.โปรเอ็น คอร์ป (PROEN) กระแสดีเยี่ยม หุ้นไอพีโอ 86 ล้านหุ้น ขายหมดเกลี้ยง! นักลงทุนตอบรับคึกคัก โดยเฉพาะสถาบันแสดงความต้องการมากกว่าที่จัดสรรให้ถึง 11 เท่า  เนื่องจากเป็นหุ้นแห่งอนาคต มีแนวโน้มเติบโตสูงในยุคอุตสาหกรรมดิจิทัลขาขึ้น "กิตติพันธ์ ศรีบัวเอี่ยม" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มั่นใจหลังระดมทุนขายหุ้นไอพีโอในครั้งนี้ เดินหน้าขยายธุรกิจ  Internet Data Center เต็มสปีดรุกเพิ่มบริการ Cloud Service  และเทคโนโลยีการเชื่อมต่อ Internet ระดับองค์กร SD-WAN พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ ผลักดันการเติบโตก้าวกระโดด เพื่อยกระดับเป็นหุ้นเทคโนโลยี High Growth มีบริการครบวงจร อนาคตไกล รวมทั้งสร้างผลตอบแทนที่ดีให้ผู้ถือหุ้นได้สม่ำเสมอ

นางยอดฤดี  สันตติกุล รองกรรมการผู้อำนวยการ หัวหน้าสายงานตลาดทุน บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัสจำกัด ในฐานะแกนนำผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญของบริษัทโปรเอ็นคอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ PROEN เปิดเผยว่าการจองซื้อหุ้นไอพีโอของ PROEN จำนวน 86 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 3.25 บาท ระหว่างวันที่ 21-23 เมษายน 2564 ได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างคึกคัก เนื่องจากนักลงทุนมั่นใจในปัจจัยพื้นฐานของ PROEN ในฐานะหุ้นเทคโนโลยีที่มีบริการครบวงจร มีแนวโน้มการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในยุคอุตสาหกรรมดิจิทัลเป็นขาขึ้น  และมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งอัตราการทำกำไรขั้นต้นที่ผ่านมามีค่าเฉลี่ยอยู่ระดับ 16% เนื่องจากควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพจากประสบการณ์การดำเนินธุรกิจมานานกว่า 20 ปี และจะมีศักยภาพการเติบโตได้อีกหลังเข้าระดมทุนและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai)

ทั้งนี้ ความต้องการของนักลงทุนสถาบัน และนักลงทุนรายย่อย สูงกว่าจำนวนหุ้นที่เสนอขายเป็นจำนวนมาก  โดยเฉพาะในส่วนของสถาบันได้แสดงความต้องการเข้ามามากกว่าที่จัดสรรให้ถึง 11 เท่า เนื่องจากกำหนดราคาขายหุ้นในระดับราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง  คิดเป็น P/E ratio ที่ระดับ 30  เท่า (Pre diluted) ทำให้มั่นใจว่า หลังการเข้าเทรดในตลาด mai ในที่ 29 เมษายน 2564  จะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างคึกคัก

สำหรับสัดส่วนการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ แบ่งเป็นในส่วนของบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์  62,100,000 หุ้น นักลงทุนสถาบัน 10,000,000 หุ้น กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของกลุ่มบริษัท5,000,000 หุ้น ผู้มีอุปการคุณของบริษัทฯ 5,400,000 หุ้น และผู้เกี่ยวข้อง 3,500,000 หุ้น

นายกิตติพันธ์ ศรีบัวเอี่ยม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บมจ.โปรเอ็น คอร์ป (PROEN) กล่าวว่า เป้าหมายการเข้าระดมทุนในครั้งนี้ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการขยายธุรกิจ Internet Data Center ให้มีพื้นที่รองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตในยุค New Normal ขณะเดียวกันต้องเร่งเพิ่มบริการ Cloud Service และระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์มากขึ้น เพราะปัจจุบันองค์กรต่างๆ มีความต้องการสูงขึ้นหลายเท่าตัว และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเมื่อบริษัทฯมีความพร้อมในทุกๆ ด้าน ก็ช่วยเพิ่มช่องทางการสร้างรายได้ประจำ ผลักดันการเติบโตได้อย่างยั่งยืนและพร้อมก้าวขึ้นไปสู่การเป็นหุ้นเทคโนโลยีบริการครบวงจรแถวหน้าของประเทศไทย

" เป้าหมายที่สำคัญเข้าตลาดเพื่อต้องการให้เพิ่มศักยภาพทั้งด้านแหล่งทุน ชื่อเสียง และความน่าเชื่อถือให้เป็นที่ยอมรับระดับประเทศ ซึ่งจะช่วยให้มีพันธมิตรระดับโลกให้ความสนใจเพิ่มขึ้น และสามารถขยายต่อยอดธุรกิจไปยังการให้บริการในรูปแบบอื่นๆเพิ่มเติมขณะเดียวกันบริษัทฯสามารถพัฒนาองค์กรให้เข้าไปสู่ Digital Innovation, Digital Transformation โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ในการทำธุรกิจพร้อมกับสร้าง New S-curveใหม่ พัฒนาธุรกิจ เพื่อนำผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ ช่วยผลักดันอนาคตโตก้าวกระโดด" นายกิตติพันธ์ กล่าว

นางสาว สุวิมล ศรีโสภาจิต  ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ  บริษัทที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน  กล่าวว่า PROEN มีจุดเด่นที่น่าสนใจ จากการเป็นผู้ให้บริการ Internet Data Center มีบริการเชื่อมต่อข้อมูลได้ปริมาณมาก ครอบคลุมผู้ให้บริการโครงข่ายมือถือทุกราย ขณะที่มีทีมงานวิศวกรด้านIT ทีมการตลาด และผู้บริหารที่มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจมากกว่า 20ปี และมีสินค้าให้บริการตั้งแต่ระบบอินเทอร์เน็ต, Data Center รวมไปถึงฮาร์ดแวร์และซอฟแวร์ต่างๆ จากการเป็นตัวแทนจำหน่ายของบริษัทชั้นนำของโลก

ตลอดจนมีฐานลูกค้าในอุตสาหกรรมต่างๆ จำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นอีคอมเมิร์ซ ,เกมส์ ออนไลน์ ,และสื่อบันเทิงต่างๆ ที่มีความสัมพันธ์มาอย่างยาวนาน และสิ่งที่สำคัญ เมื่อเกิดสถานการณ์โควิด-19 แม้จะเป็นวิกฤติของโลก แต่กลับเป็นโอกาสของธุรกิจอินเทอร์เน็ตออนไลน์ ซึ่งต้องการใช้บริการ Data Center ทั้งสิ้น จึงน่าจะสนับสนุนให้ PROEN มีการเติบโตได้ดีหรือเป็นหุ้น High Growthในกลุ่มเทคโนโลยีแถวหน้าของประเทศไทย